ยางรถจักรยานยนต์โดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 ปี หรือ 10,000-20,000 กม. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนนที่ขับเป็นประจำทุกวัน และประเภทของยางที่ใช้ด้วย วันนี้จึงรวบรวมวิธีสังเกตความพร้อมยางเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้ก่อนเปลี่ยนก่อน ปลอดภัยกว่า
- ลมยางอ่อนเร็วกว่าปกติ ต้องเติมลมยางบ่อย อาจเกิดจากการขับผ่านถนนที่ขรุขระจนทำมห้ผิวยางด้านนอกเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ยางในเสียหาย
- ดอกยางสึกไม่เท่ากัน หน้ายางสัมผัสพื้นผิวถนนไม่เท่ากัน รีบเปลี่ยน เพราะความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง
- ดอกยางโล้น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้มากกว่าปกติ เพราะยางรถจะเกาะพื้นถนนได้ไม่ดีเท่ายางที่มีดอกยางสมบูรณ์ อันตราย! ให้รีบเปลี่ยนยางใหม่ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
- รถเฉไปทางใดทางหนึ่ง สัญญาเตือนว่ายางรถมีปัญหาเกิดการสึกของยางไม่เท่ากัน จึงทำให้การขี่ในแต่ละครั้งรถจะเฉไปยังฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ
- รถแฉลบ รถเหิน ไม่เกาะถนน เนื่องจากความลึกของดอกยางเหลือน้อย การยึดเกาะจึงแย่ลง ทำให้ควบคุมได้ยาก และเกิดการไถลเมื่อเบรกกะทันหัน
- รถกระเด้งกระดอนตลอดเวลา อาจเป็นเพราะเนื้อยางเสื่อมสภาพ แข็งจนเกินไปจึงทำให้เกิดภาวะกระเด้งกระดอนระหว่างการขับขี่มากขึ้น
แนะนำวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น
- ทำการตรวจเช็กลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งและควรเติมลมยางประมาณเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย
- ทำความสะอาดสิ่งแปลกปลอมที่ติดค้างอยู่คาล้อ เช่น หิน กรวด ลวด ตะปู ของแข็งแหลม เป็นต้น
- ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง บนสภาพถนนที่มีทางขรุขระ หลุมบ่อหรือร่องถนน
หากดูแลอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างระมัดระวัง นอกจากเป็นการดูแลยางรถให้ใช้งานได้นานขึ้นแล้วยังรวมถึงทำให้ผู้ขับขี่ได้ใช้รถอย่างปลอดภัยอีกด้วย