เช็กด่วน! สัญญาณเตือนอาการรถผิดปกติ รีบแก้ไข โดยสังเกตอาการผิดปกติของรถคุณได้จากการเห็น การฟังเสียง การได้กลิ่น การจับต้องชิ้นส่วนนั้นๆ และการลองขับดู หากพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ให้รีบทำการตรวจเช็กและซ่อมแซมโดยเร็ว เพราะอาจทำให้รถของคุณเกิดความเสียหายลุกลามไปจนถึงการเกิดอุบัติเหตุตามมาได้
- มีควันขาวออกมาจากท่อไอเสีย เครื่องยนต์ขาดการดูแลรักษา ถ่ายน้ำมันเครื่องไม่ตรงตามกำหนด หรือชิ้นส่วนภายในตัวเครื่องยนต์สึกหรอ น้ำมันเครื่องหลุดเข้าไปในขั้นตอนการจุดระเบิด เกิดการเผาไหม้ไม่หมดแล้วกลายออกมาเป็นควันขาวออกทางท่อไอเสีย
- หากมีสัญลักษณ์ไฟเตือนใดเกิดขึ้นบนแผงหน้าปัดรถยนต์ ควรตรวจสอบทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน โดยสามารถเปิดคู่มือการใช้รถของคุณ ดูไฟเตือนและไฟแสดงสถานะ เพื่อให้ทราบถึงอาการผิดปกติในระบบนั้นๆ
- เครื่องยนต์ คือ หัวใจของรถ หากมีอาการอุณหภูมิเครื่องยนต์ผิดปกติ
– เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไรความร้อนขึ้นสูง
– เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแล้ว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก
– หรือมีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ ควรนำรถเข้าตรวจสภาพที่ศูนย์บริการรถยนต์โดยตรง - เกิดเสียงแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคยดังในรถ ควรหาที่มาของเสียง เช่น เสียงดังหลังสตาร์ทเครื่อง เสียงดังเวลาเร่งเครื่อง เสียงดังใต้ท้องรถ เป็นต้น หรืออย่างกรณีเหยียบเบรกแล้วเกิดเสียงคล้ายเหล็กเสียดสีกัน อาจเป็นสัญญาณของผ้าเบรกหมด ซึ่งอันตรายมากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เลย
- ใช้เวลาสตาร์ทเครื่องนานกว่าปกติ แบตเตอรี่รถอาจเสื่อมหรือใกล้หมด หากรถดับกลางทางแล้วสตาร์ทไม่ติดในที่ไม่คุ้นเคย หรือที่เปลี่ยวอาจเกิดอันตรายต่อตัวคุณได้
- มีร่องรอยของน้ำ น้ำมันหยดที่พื้น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น หม้อน้ำรั่ว น้ำมันเบรกรั่ว หรือน้ำมันรั่ว ค่อนข้างไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดอันตรายระว่างที่คุณขับรถอยู่ได้
- อันตราย! นำรถเข้าตรวจเช็กโดยด่วน
– ได้กลิ่นเหม็นไหม้ เช่น เบรกไหม้ สายพานไหม้ ท่อไอเสียปริแตก สายไฟภายในเครื่องยนต์ไหม้
– เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง แป้นเบรกจมลึกลงไปทั้งๆ ที่ถอนเท้า